7 ชุดสืบร่วมแกะคดีฆ่า "หั่น" ชายนิรนามมุ่งเป็นชาวต่างชาติ
รอง ผบช.ภ.1 จัดตำรวจ 7 ชุดสืบสวนมือพระกาฬ ลงพื้นที่คลี่คดีฆ่าหั่นศพชายนิรนาม ถูกตัดแขนขาบั่นคอแยกร่าง เผาทิ้งอำพราง 2 อำเภอกรุงเก่า เน้นค้นหาศีรษะเหยื่อมาพิสูจน์ว่าเป็นใคร พร้อมไล่เช็กกล้องวงจรปิดทุกตัวตามเส้นทาง ยังไม่ยืนยันผู้ตายเป็นคนไทยหรือต่างชาติ เปิดโทร.สายด่วนพิเศษให้ชาวบ้านช่วยแจ้งเบาะแส ระบุปมสังหารมีทั้งธุรกิจมืด ยาเสพติด ชู้สาว และสางแค้นส่วนตัว
กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ กรณีตำรวจ สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พบศพช่วงลำตัวของชายนิรนามอายุราว 25-30 ปี ผิวขาว แขนขาทั้ง 2 ข้างและศีรษะถูกตัดหายไป ศพถูกเผาเสียหายราว 30 เปอร์เซ็นต์ ทิ้งไว้ในซอยโรงงานอิฐบล็อก ถนนเข้าโครงการบ้านจัดสรรร้าง หมู่ 4 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย ต่อมาวันเดียวกัน ตำรวจ สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบแขนขามนุษย์ถูกหั่นเป็นท่อนและเผาทิ้งริมถนน 347 ปทุมธานี-บางปะหัน มุ่งหน้า อ.บางปะหัน กม.ที่ 30 หมู่ 9 ต.บางประแดง อ.บางปะอิน เบื้องต้นคาดว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่ถูกเผาทั้ง 2 จุดเป็นคนเดียวกัน แต่ส่วนศีรษะยังหาไม่พบ ที่ห้องประชุมพระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา สายวันที่ 2 มี.ค. พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา แทงหวยยี่กี ที่ไหนดี พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับชุดสืบสวน ภาค 1 หลังการประชุม พ.ต.อ.ชัยณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบศีรษะผู้ตาย ส่วนการแจ้งความคนหายยังไม่มี ตำรวจต้องเร่งพิสูจน์ให้ได้ว่าผู้ตายเป็นใคร คาด 1-2 วันนี้น่าจะพอได้เบาะแส และคนร้ายอาจอยู่ในพื้นที่หรือคนนอกพื้นที่ก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความชำนาญเส้นทาง ส่วนการส่งตรวจวัตถุพยาน การตรวจหาดีเอ็นเอ และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ส่งไปตรวจสอบที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานแล้ว
เวลา 15.00 น. ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.วังน้อย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครอง รอง ผบช.ภ.1 เดินทางมาประชุมความคืบหน้าคดี มี พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ รอง ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธนกฤต กนิษฐกูล ผกก.สส.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.บางปะอิน พ.ต.อ.ภัทรภัทร นุชยวง ผกก.สภ.มหาราช พ.ต.อ.สถิตย์ สังข์ประไพ ผกก.สภ.หนองแค พร้อมชุดสืบสวน ภาค 1 ชุดสืบสวน สภ.บางปะอิน ชุดสืบสวน สภ.วังน้อย และชุดสืบสวน ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา
ดักจับเอเย่นต์แรงงานเถื่อนริมป่าชายแดนเมืองกาญจน์ จ่อส่งโรงงาน
ทหารกองกำลังสุรสีห์ ตะครุบ “อ้วน ห้วยน้ำขาว” เอเย่นต์ใหญ่ค้าแรงงานเถื่อนคาป่าเมืองกาญจน์ ขณะลอบนำต่างด้าวจำนวนมากหลบหนีเข้าเมือง พร้อมจับกุมชาวเมียนมาชาย-หญิง 30 คน ระหว่างแอบซุกรอแถวชายแดนสังขละบุรี สารภาพร่วมกับนายหน้าพม่าส่งคนงานให้โรงงานในพื้นที่หลายจังหวัด ค่าหัวรายละ 14,000-16,000 บาท
รวบเอเย่นต์ค้าแรงงานเถื่อนรายใหญ่ หลังลอบขนชาวเมียนมาเข้าประเทศรายนี้ เปิดเผยเมื่อวันที่ 2 มี.ค. พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9/ผบ.กกล. สุรสีห์กล่าวว่า ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ.กาญจนบุรี มีนโยบายและคำสั่งให้ทุกหน่วยงานความมั่นคงตามชายแดนและทุกด่านตรวจทุกจุดสกัดในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพิ่มมาตรการปราบปรามตรวจค้นจับกุมการค้าแรงงานเถื่อน ต่อมาเวลา 20.00 น. วันที่ 1 มี.ค. พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ร.19/ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ รับแจ้งจากสายข่าวความมั่นคงชายแดนด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ว่ามีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ใช้เส้นทางลำลองเดินลัดเลาะชายป่าลักลอบข้ามแดนหลายจุดทั้งในพื้นที่ jetsada365 อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ และ อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อส่งแรงงานไปทำงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร หลังรับแจ้งข่าว พ.อ.สิทธิพร สั่งการให้ พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า ประสานทหารพราน และ บก.มว.ฉก.ลาดหญ้า ที่ 3 และ 4 กก.ตชด.13 ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ร่วมกันจับกุมนายอนุชิต ทองเถาว์ อายุ 43 ปี หรือ “อ้วน ห้วย–น้ำขาว” อยู่บ้านเลขที่ 154/4 หมู่ 2 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี เอเย่นต์นายหน้าคนนำพา พร้อมแรงงานเถื่อน 2 คน บริเวณป่าตะเข็บชายแดนบ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี
นายอนุชิตให้การรับสารภาพเป็นผู้นำพาบุคคลต่างด้าวทั้ง 2 คน และแรงงานเถื่อนอีก 17 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้เข้าประเทศไทย มีนายหน้าฝั่งเมียนมา ชื่อนายฮา วิน คิดค่าหัวการส่งแรงงานหัวละ 3,000 บาท นำแรงงานชาวเมียนมา เดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติชายแดนบ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า จากนั้นลัดเลาะป่ามาพักรอในชายป่าหุบตาบุญ บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อรอนำส่งต่อให้นายหน้าที่จะมารับต่างด้าวไปส่งต่ออีกทอด
Comments