ชาวบ้านขอแรงกู้ภัยฯ ช่วยงม "ต้นตะเคียนทองในบึงน้ำ" ก่อนได้ "เลขเด็ด" ลุ้นรวย

ชาวบ้านขอแรงกู้ภัยฯ มาช่วยงม "ต้นตะเคียนทองในบึงน้ำ"

ก่อนหน้ามาเข้าสิงร่างทรงว่าถึงเวลาขึ้นมาให้โชคแล้ว ขณะที่คอหวยไม่ผิดหวังได้ "เลขเด็ด" ลุ้นรวยวันนี้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ ม.1 ต.หนองไม้กอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร

บริเวณดังกล่าวเรียกว่า "บึงแม่ลาน" โดยบึงแห่งนี้มีความกว้าง 300 เมตร ลึกกว่า 5 เมตร เป็นแหล่งเก็บน้ำสาธารณะที่เก็บน้ำไว้ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ในการทำการเกษตรในช่วงแล้ง ปรากฏว่ามีการพบ "ต้นตะเคียนทอง" กว่า 4 ต้น ความยาวประมาณ 5-7 เมตร พร้อมกิ่งต้นตะเคียน จำนวน 1 กิ่ง และตอต้นตะเคียน จำนวน 1 ตอ สำหรับก่อนหน้านี้เพียง 3 วัน "เจ้าแม่ตะเคียน" ได้ไปเข้าร่างทรงประจำหมู่บ้านบอกกับชาวบ้านว่า "ถึงเวลาที่จะขึ้นมาจากน้ำแล้ว" ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ได้รับปากเจ้าแม่ตะเคียนทองว่าจะนำขึ้นมา จนผ่านไปเป็นวันที่ 4 "เจ้าแม่ตะเคียนทอง" ก็กลับมาเข้าร่างทรงอีกครั้ง เพื่อทวงถามว่าเมื่อไหร่จะเอาขึ้นมา จนวันนี้ได้ขอความช่วยเหลือทีมชุดประดาน้ำ และอาสาสมัครกู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จำนวนกว่า 50 นาย ให้มาช่วยกันลงไปงม "ต้นตะเคียนทอง" ในบึงน้ำดังกล่าววันนี้ ขณะที่ ทีมชุดดำน้ำกำลังลงค้นหาอยู่นั้น ได้มีบางอย่างเข้าสิงร่างทรงที่มาประกอบพิธี พร้อมได้สื่อสารกับชาวบ้านว่า "จะขึ้นมาจุดนี้ วันนี้ อย่างง่ายดาย จำนวน 3 ต้น เป็นพี่น้องครอบครัวเดียวกันทั้งหมด คือ "เจ้าแม่ขอมดำ, เจ้าแม่จันทร์หอม, เจ้าแม่มลธาทิพย์" และบริวารอีก 3 ตน หวยลาว รวมอายุนับพันปี ขอให้ชาวบ้านช่วยกันใช้เชือกดึงขึ้นมาก็จะสำเร็จอย่างง่ายดาย จากนั้น ทีมชุดดำน้ำได้ลงไปค้นหาได้เพียงไม่นาน ก็พบว่ามีต้นตะเคียนอยู่ในบึงน้ำนี้จริงหลายต้น เลยใช้ทุ่นลอยน้ำมาร์กจุดไว้ ก่อนจะให้ชาวบ้านดึงกันขึ้นมา และใช้รถไถลากอีกแรง โดยความสามัคคีของชาวบ้านจำนวนนับร้อยๆ คน ได้ออกแรงดึงต้นตะเคียนพร้อมอาสาฯ กู้ภัยสว่างฯ นำขึ้นมาได้ทีละต้น จนสำเร็จตามที่ร่างทรงสื่อสาร ผ่านไป 3 ชั่วโมง ต้นตะเคียนทั้งหมดก็ได้ขึ้นมาให้ชาวบ้านได้ชมบารมี เพื่อขอโชคลาภตามที่ร่างทรงบอกจริงๆ และนอกจากนี้ ยังมีวงกลองยาวของชาวบ้านมาบรรเลงขับกล่อมอย่างสนุกสนานระหว่างทำภารกิจอีกด้วย

นายมนตรี โพธิ์แย้ม อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.1 (บ้านหนองไม้กอง) อยู่บ้านเลขที่ 331/1 ม.1 ต.หนองไม้กอง อ.ไทรงาม จ.กำแพงเพชร เล่าว่า สมัยที่ตนเองยังเป็นเด็ก ก็ทราบจากคนเก่าคนแก่ว่าเคยมีการพบต้นตะเคียนในบึงแม่ลานแห่งนี้ แต่ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ ซึ่งก็ได้ลองนำรถแบ็กโฮมาขุดแล้วถึง 3 คัน แต่ก็เจอปัญหารถเสียทั้งหมด จนสุดท้ายก็ได้นำขึ้นมาจนสำเร็จ หลังจากนี้ไปจะนำไปไว้ที่วัดในพื้นที่ตามประสงค์ของเจ้าแม่ตะเคียนทองทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สำหรับทะเบียนรถไถที่นำเจ้าแม่ตะเคียนทองขึ้นมาได้ครั้งนี้คือ "ป้ายทะเบียน ตง 1177 กำแพงเพชร" ส่วนชาวบ้านก็บอกว่าเห็นเลขในขอนตะเคียนคือเลข 931, 532, 18, 78, 11, 33, 17 โดยหลายคนเชื่อว่าเป็นงวดแรกต้องได้โชคอย่างแน่นอน

คนคลองเจ็ดร้อง ทางหลวงวางแบริเออร์เกาะกลาง ถ.ธัญบุรี-วังน้อย กระทบวิถีชีวิต

ชาวบ้านที่คลองเจ็ด อ.คลองหลวง ปทุมธานี ร้องคัดค้านการวางแท่นแบริเออร์เกาะกลางถนนธัญบุรี-วังน้อย เผยที่ดินส.ป.ก.ย่านนี้ใช้ทำการเกษตร ทำนามาเนิ่นนาน การสร้างสิ่งขวางกั้นกลางถนน จึงกระกระทบกับวิถีดั้งเดิม รถในการเกษตรต้องวิ่งไปไกลหลายกม. เพื่อจะข้ามฝั่ง ยื่นหนังสือให้ส.ส.ช่วยเจรจากรมทางหลวง

วันที่ 25 ธันวาคม 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ อบต.คลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ชาวบ้านตำบลคลองเจ็ดประมาณ 20 คนได้รวมตัวยื่นหนังสือร้องคัดค้านโครงการจัดทำวางแท่นแบริเออร์บนเกาะกลางในถนนธัญบุรี - วังน้อย หมู่ 2 - 5 ตำบลคลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง เนื่องจากได้รับผลกระทบของวิถีชีวิตความเป็นอยู่และการเดินทางที่ยากลำบาก โดยมีนายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคภูมิใจไทย และนายเสถียร ศรีสุข นายก อบต.คลองเจ็ด ออกมารับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดือดร้อนในครั้งนี้ นายกรธัช ธนูศิลป์ อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 2 ตำบลคลองเจ็ด ตัวแทนชาวบ้านกล่าวว่า ชาวบ้านตลอดจนเกษตรกรได้ประสบปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ การเดินทาง การใช้รถใช้ถนน การทำมาหากิน ในด้านการเกษตรการทำนา เนื่องจากทางกรมทางหลวงได้อนุมัติจัดทำโครงการขยายเขตถนนในพื้นที่ของตำบลคลองเจ็ด อำเภอคลองหลวง ได้ทำการเวนคืนที่ดินของเกษตรกรเพื่อจัดทำถนนแปดเลนผ่ากลางที่ดินทำกินของชาวบ้าน jetsada365 ซึ่งทำให้ที่ดินของชาวบ้านถูกแบ่งออกเป็น 2 แปลง ต่อมากรมทางหลวงได้สร้างถนน 2 เลนคู่ขนานที่เรียกว่า ถนนธัญบุรี-วังน้อย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่รถที่ใช้สัญจรไปมาบนเส้นทางนี้โดยได้ทำถนนและใช้ถนนสายนี้มาเป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่เขตนี้ ยังมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเรียบง่าย ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ร่วมกันลงรายชื่อ ยื่นหนังสือต่อ ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 นายก อบต.คลองเจ็ด และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอคลองหลวง เพื่อร้องคัดค้านโครงการวางแท่นแบริเออร์บนถนนสายนี้และขอให้พิจารณานำงบประมาณของการวางแท่นแบริเออร์ เปลี่ยนไปใช้ทำอย่างอื่นที่สำคัญกว่า และไม่ทำให้เดือดร้อนกับคนในพื้นที่ที่ทำการเกษตรมานานหลายสิบปี

โดยยังคงยึดหลักความเป็นอยู่อย่างพอเพียง ชาวบ้าน 80% ยืดอาชีพเกษตร คือการทำนาในพื้นที่เกือบทั้งหมด เพระที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินของ สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรจังหวัดปทุมธานี ที่จัดสรรแบ่งให้ประชาชนชาวบ้านได้ทำมาหากินในรูปแบบเกษตรกรรมเป็นหลัก ผู้ครอบครองที่ดิน จะต้องทำการเกษตรเท่านั้น มีการทำนาทั้ง 2 ฝั่งถนน โดยต้องใช้รถไถนาในการข้ามฝั่งถนนสายนี้มาตลอด แต่กรมทางหลวงมีโครงการวางแท่นแบริเออร์ ทำให้ต้องลำบากในการขับรถไถนาการเกษตร ซึ่งเป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับไถพรวนดิน ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขับบนถนนหลัก โดยหากต้องขับรถไถนาเพื่อข้ามฝั่งถนนไปทำนาอีกฝั่งโดยจะต้องขับบนถนนเป็นระยะทางไป-กลับ ประมาณ 2-4 กิโลเมตร ด้าน นายพิษณุ พลธี ส.ส.ปทุมธานี เขต 6 พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนของชาวบ้านหมู่ 2-5 ตำบลคลองเจ็ด แล้ว จะเร่งดำเนินการประสานกับทางกรมทางหลวง ให้มีตัวแทนชาวบ้านเข้าร่วมหารือ เพื่อหาทางออกให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน โดยจะเร่งดำเนินการอย่างเร็วที่สุด