ชาวบ้านแห่กราบไหว้ พญานาคปู่ศรีสุทโธเข้าร่างหมอลำ
ชาวบ้านแห่ไปกราบไหว้ "รูพญานาค"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่ป่าสวนยาง ท้ายหมู่บ้านหยวก หมู่ 17 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี หลังทราบว่ามีชาวบ้านแห่ไปกราบไหว้ "รูพญานาค" เมื่อเดินทางถึงพบมีเต็นท์ผ้าใบกลางอยู่กลางถนนบ้านหยวก-บ้านเทพประทาน ภายในเต็นท์พบรูขนาดกว้างเท่าผ่ามือ ลึกประมาณ 2 ฟุต มีชาวบ้านกว่า 500 คน นำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้ ตั้งวางต้นเงินทำบุญ พร้อมกับตั้งร้านขายอาหารและน้ำดื่ม และดอกไม้ธูปเทียน โดยมีพ่อค้าแม่ค้านำลอตเตอรี่มาวางขาย ซึ่งชาวบ้านต่างเชื่อว่าเป็น "รูพญานาค"
นายอำไพ สวนอาด ผู้ใหญ่บ้านบ้านหยวก หมู่ 17 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อบ่ายวันที่ 26 ก.ย. มีนายสุนทร กองคำ อายุ 58 ปี ชาวบ้านโนนสูง หมู่ 15 ต.บ้านหยวก อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี ได้ขี่รถจยย.ผ่านถนนบริเวณดังกล่าวไปสวนยาง ซึ่งเป็นถนนลูกรัง และพบกับรูดังกล่าวอยู่บนถนน จึงได้มาบอกชาวบ้านและพระภิกษุ ว่ามีรูเกิดอยู่บนถนน ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน ชาวบ้านจึงได้มาดู และมี "จ้ำ" หรือคนทรง มานั่งก็บอกว่าเป็น "รูพญานาค" มาแสดงอภินิหารให้ชาวบ้านเห็น ชาวบ้านที่ทราบข่าวจึงแห่มากราบไหว้ และมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นความเชื่อของคนอีสาน จึงได้จัดเต็นท์และนำเจ้าหน้าที่มารักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านที่เดินทางมากราบไหว้ แทงหวยยี่กี ที่ไหนดี และทำบุญด้วย เงินที่ชาวบ้านทำบุญก็จะนำไปถวายวัดในหมู่บ้าน ด้าน นายวัชพล ปรุณกรณ์ อายุ 41 ปี สาวประเภทสอง เล่าว่า วันที่ 26 ก.ย. มีหมอลำคณะรุ่งทิวาอำนวยศิลป์ เดินทางมาแสดงหมอลำในตอนกลางคืนที่หมู่บ้าน ต่อมามีชาวบ้านมาบอกว่าพบ "รูพญานาค" ตนจึงได้ขี่รถจยย.มาดู และได้มีหมอลำผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี ตามมาด้วย เมื่อมาถึงหมอลำผู้ชายได้มีอาการแปลกๆ ลงจากรถแล้วรีบนั่งลงใกล้กับหลุมพร้อมกับเอามือจับทีปากหลุม จากนั้นเสียงพูดก็เปลี่ยนไป จากเสียงคนหนุ่มเปลี่ยนเป็นเสียงคนแก่
สำหรับเลขเด็ดที่ประชาชนและคอหวย ทยอยเดินมาถามหาซื้อกันเป็นเสียงเดียวกันก็คือ เลขมงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 66 พรรษา และเลขชุดอีกชุดหนึ่งคือ เลขมงคลวันแม่แห่งชาติ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 86 พรรษา ทำให้เลข 2 ชุดนี้ ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่า มีเท่าไรขายเกลี้ยงทุกแผงในตัวเมืองชัยนาท ส่วนเลขเด็ดโซเชียล ที่มาแรงไม่แพ้กันคือ เลขชุดที่ทางกลุ่มผู้ค้าสลาก 5 ภาค นำมาแชร์ต่อๆ กันคือ เลขชุดของแม่จำเนียร ได้แก่ เลข 222, 711 เป็นเลขทะเบียนรถของนายกรัฐมนตรี ใช้ปฏิบัติภารกิจ
"ราชทัณฑ์" แจงเฟซบุ๊ก "เพนกวิน" โพสต์โดยบุคคลอื่น ย้ำผู้ต้องขัง ห้ามใช้โทรศัพท์
"ราชทัณฑ์" ชี้แจง ข้อความโพสต์บนเฟซบุ๊กของ "เพนกวิน" เป็นการโพสต์โดยบุคคลอื่น เหตุผู้ต้องขังห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด วันที่ 13 ก.พ. นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจง กรณีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนําคณะราษฎร ซึ่งถูกคุมขังที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร จนเกิดข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงสามารถโพสต์ข้อความผ่านสื่อโซเชียลได้ แม้กระทั่งถูกคุมขังอยู่ และเป็นการได้รับสิทธิพิเศษเหนือนักโทษคนอื่นหรือไม่นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ภาพกระดาษพร้อมลายมือของนายพริษฐ์ ที่กําลังเป็นที่สนใจอยู่ในขณะนี้ เป็นข้อความที่นายพริษฐ์ ได้เขียนขึ้น ณ ห้องเวรชี้สองสถานของศาลอาญา และส่งต่อให้แก่ทนายของตนเอง ภายหลังจากที่ศาลอาญามีคําสั่งยกคําร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว เมื่อเวลาประมาณ 17.55 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564 ก่อนที่จะถูกนําตัวกลับมาคุมขัง ที่เรือนจําพิเศษกรุงเทพมหานคร ดังนั้น การที่ภาพดังกล่าวไปปรากฏอยู่บนเพจเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 00.50 น. เป็นการดําเนินการโดยผู้ดูแล หรือแอดมินแฟนเพจ jetsada365 ซึ่งมีได้หลายคน ไม่ใช่การโพสต์โดยตัวนายพริษฐ์ เนื่องจากโทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ เป็นสิ่งของต้องห้าม ตามมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 จึงเป็นไปไม่ได้ที่นายพริษฐ์ จะมีโทรศัพท์มือถืออยู่ในความครอบครอง ขณะถูกคุมขังอยู่ในเรือนจํา บริเวณป่าช้าจีนหรือสุสานมูลนิธิพิจิตรสามัคคีสถานสงเคราะห์ หมู่ 7 ต.คลองคะเชนทร์ อ.เมืองพิจิตร นายอนุศิษฐ์ หลิมศิริวงศ์ รองประธานฝ่ายสุสาน มูลนิธิพิจิตรสามัคคีกุศลสถานสงเคราะห์ ได้นำคณะกรรมการมูลนิธิฯ จัดฉายภาพยนตร์ เนื่องในวันชิวอิกของเทศกาลตรุษจีน
โดยในช่วงเช้าได้จัดพิธีเซ่นไหว้แป๊ะกง เพื่อขอขมาก่อนจะฉายหนังในภาคค่ำ โดยทางมูลนิธิได้จ้างภาพยนตร์ฉายปีละ 3 เรื่อง ให้กับผู้วายชนม์ชมที่บริเวณสุสาน ซึ่งปฏิบัติติดต่อเป็นประเพณี เป็นปีที่ 52 เป็นการฉายภาพยนตร์ในบรรยากาศที่เงียบสงัด มีเพียงคณะกรรมการของมูลนิธิฯ คนฉายหนังของบุญเชิดภาพยนตร์ และผู้เข้าชมที่เป็นคนในหมู่บ้านประมาณ 20 คน ก่อนจะฉายหนัง นายอนุศิษฐ์ ได้กล่าวเชิญชวนให้วิญญาณอากงอาม่า ให้จับจองที่นั่งดูภาพยนตร์ได้ตามสะดวกหน้าบ้านใครหน้าบ้านมัน สำหรับปีนี้ มีการฉายภาพยนตร์ 3 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกเป็นภาพยนตร์ ป่วงเซียง หรือหนังไหว้เจ้า ต่อด้วยหนังจีนเรื่อง หนึ่งฟัดใหญ่ และเรื่องสุดท้าย ล่าขุมทรัพย์ป่านรก
Kommentare