นักเสี่ยงโชคขอพร "หลวงปู่หลิว" นั่งพญาเต่า ยิ้มกว้างได้ "เลขเด็ด" ลุ้นหวย

เซลส์สาวขายรถ มาขอโชคลาภ "หลวงปู่หลิว" นั่งพญาเต่า องค์ยักษ์ ที่วัดสี่แยกเจริญพร ไม่ผิดหวังได้ "เลขเด็ด" กลับไปเสี่ยงโชคงวด 1/12/63

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดสี่แยกเจริญพร ต.หนองกระทุ่ม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ใกล้วันหวยออกบรรดานักเสี่ยงโชคทยอยกันมากราบไหว้ขอพรจาก หลวงปู่หลิว นั่งพญาเต่าเรือน องค์ใหญ่ ที่ชาวบ้านต่างให้ความเชื่อถือว่าเป็นเกจิอาจารย์ที่ให้โชคให้ลาภ องค์ยักษ์สูง 10 เมตร

ทางด้าน น.ส.กฤติยาณี เกียรติแสงทอง อายุ 38 ปี พนักงานขายรถมือสอง อยู่ จ.ราชบุรี เผยว่า ตนเองได้ยินชื่อเสียงของหลวงปู่หลิวมายาวนานตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย เมื่อนำรถที่ขายได้ผ่านมาเส้นทางนี้ก็จะเข้ามากราบไหว้ขอพร เดือนหรือสองเดือนครั้ง จะนำเอาผลไม้และผักบุ้งมาถวายทุกครั้ง และเมื่อกลับไปก็จะประสบผลบอกขายรถกี่คันก็สำเร็จ วันนี้นำรถมาส่งที่ไร่อ้อยใกล้วัดก็เลยแวะมากราบไหว้ขอพรเหมือนเดิม สำหรับครั้งนี้เขย่า 3 ครั้ง หวยลาว ได้หมายเลขไม้ที่หล่นมา 17, 10, 9 ครั้งนี้ได้ขอโชคให้ถูกรางวัลใหญ่ และยังบนไว้หากถูกรางวัลใหญ่จะนำเงินรางวัลที่ได้บางส่วน มาร่วมบุญสมทบทุนสร้างพระอุโบสถสแตนเลสประยุกต์ที่กำลังทำอยู่ให้ด้วย พร้อมกับจะมาเช่าบูชาขนาด 9 นิ้ว หลวงปู่หลิวนั่งพญาเต่าเรือนไปบูชาด้วย ส่วนเลขที่เสี่ยงทายมาจะไปหาซื้อลอตเตอรี่ที่เกี่ยวข้องกับเลข ก่อนเดินทางกลับได้ไปทำบุญสมทบทุนสร้างพระอุโบสถด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหลือเวลาอีก 3 วัน จะมีการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ งวดประจำวันที่ 1 ธ.ค. 63 ทั้งนี้ สำหรับบรรยากาศการขายลอตเตอรี่งวดนี้ พบว่า "เลขเด็ด" และ "เลขดัง" ถูกกว้านซื้อไปจนหมด โดยเฉพาะ "เลขมงคล" ไม่ว่าจะเป็นในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แต่เลขอื่นๆ ก็ยังหาซื้อได้ตามแผงค้า ซึ่งยังพอเหลือลอตเตอรี่ให้เลือกซื้ออยู่อีกมากเช่นกัน ขณะที่ หลายคนก็เสาะหา "เลขเด็ด" จากโซเชียล หรือแม้กระทั่งเลขเด็ดตามความเชื่อ ทั้งความฝัน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน

ขณะที่ นายยุทธนา แช่มชุม พ่อค้าลอตเตอรี่ที่ตั้งอยู่บริเวณด้านข้าง เผยว่า ในงวดนี้ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อ จะดูจากอ่างน้ำมนต์ด้านหน้าปู่หลิวนั่งพญาเต่าเรือน จะนำไปตีเป็นเลข 6, 7, 0 และ 2 ที่หยดน้ำตาเทียนปรากฏให้เห็น ซึ่งเลขที่เกี่ยวข้องเป็นเลขที่ขายดีมาก ตอนนี้หมดเกลี้ยงทุกแผง

เสือลายเมฆเผยโฉมรอบ 20 ปี ป่า “ทุ่งกบาลกะไบ” เขตเขาพนมดงรัก

พบ “เสือลายเมฆ” สัตว์ป่าคุ้มครองใกล้สูญพันธุ์ครั้งแรกในรอบ 20 ปีในผืนป่าเทือกเขาพนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ หลังเจ้าหน้าที่ติดกล้องดักถ่าย Camera Trap

เจอสัตว์นักล่าโผล่ในเส้นทางเข้าทุ่งกบาลกะไบ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” เผยเป็นเรื่องน่ายินดีที่นับแต่สิ้นเสียงปืนไทย-กัมพูชา สัตว์ป่าที่ถูกปล่อยสู่ป่าและได้รับการดูแลเรื่องแหล่งอาหารแหล่งน้ำแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น เรื่องน่ายินดีพบเสือลายเมฆ สัตว์นักล่าแห่งเทือกเขาพนมดงรักในรอบ 20 ปี เปิดเผยเมื่อวันที่ 27 พ.ย. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนสำรวจและติดตามความหลากหลายทางสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า (ขสป.) พนมดงรัก จ.ศรีสะเกษ jetsada365 เก็บกล้องดักถ่าย Camera Trap (คาเมร่า แทรป) ที่ติดตั้งไว้ระหว่างวันที่ 1-24 พ.ย.63 พบสัตว์ป่าสำคัญปรากฏในกล้องดักถ่ายหลายชนิด อาทิ กวาง เนื้อทราย เก้ง หมูหริ่ง แมวดาว หมาไน หมาจิ้งจอก นกโกโรโกโส และนกยางลายเสือ นายชัยวัฒน์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบสัตว์ป่าที่พบใหม่ 1 ชนิด คือเสือลายเมฆบริเวณเส้นทางเข้าทุ่งกบาลกะไบ สำหรับทุ่งกบาลกะไบในปัจจุบันนับแต่มีการปล่อยสัตว์ป่าคืนสู่ธรรมชาติตั้งแต่ปี 2558 สัตว์ป่าที่ปล่อยได้รับการดูแลจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย

แหล่งน้ำและแหล่งอาหารเพียงพอแก่สัตว์ป่านำไปสู่การแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติและสัตว์ป่าเพิ่มจำนวนมากขึ้น เริ่มจากสัตว์ผู้ล่าขนาดเล็ก อาทิ หมาไน หมาจิ้งจอก แมวดาว เข้ามาอาศัยในพื้นที่เพื่อล่าสัตว์ที่อ่อนแอเป็นอาหาร กระทั่งมาวันนี้เป็นเรื่องน่ายินดีที่พบเสือสายเมฆในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ขสป.พนมดงรัก สัตว์ผู้ล่าขนาดกลางเข้ามาอาศัยในพื้นที่เทือกเขาพนมดงรัก “เสือลายเมฆเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองที่ใกล้จะสูญพันธุ์ในประเทศไทย ในป่าแถบนี้ไม่เคยพบเสือลายเมฆมาก่อน ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปีนับจากการสู้รบกันในเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้พิสูจน์ได้ว่า “โครงการปล่อยสัตว์ป่า คืนวนาเพื่อป่าสมบูรณ์” ประกอบกับการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ smart patrol ที่กำชับให้เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนอย่างเข้มข้นมาโดยตลอดช่วยให้สัตว์ป่าเหล่านี้รอดพ้นจากภัยคุกคาม นำมาซึ่งความหลากหลายทางสัตว์ป่าและพันธุ์พืชอีกครั้ง” นายชัยวัฒน์กล่าว