"น้องอ๋อม" แม่ค้าลอตเตอรี่เมืองเลย สวย น่ารัก อย่างกับเน็ตไอดอล

น้องอ๋อม วัย 20 ปี แม่ค้าหวย หารายได้พิเศษ ตระเวนขายลอตเตอรี่ช่วยเหลือครอบครัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่แผงลอตเตอรี่ข้างธนาคารกรุงไทย สาขาเลย มีแม่ค้าลอตเตอรี่ วัย 20 ปี หน้าตาสวยและน่ารักที่สุดเท่าที่เคยเจอมา มาตั้งแผงและตระเวนขายลอตเตอรี่ทั่วเมืองเลย ทำให้หนุ่มๆ ที่เห็นต้องหันกลับมามอง ด้วยความสวยและน่ารัก ที่ไม่เคยเจอแม่ค้าลอตเตอรี่คนไหนสวย น่ารัก แบบนี้มาก่อน ต้องแวะซื้อลอตเตอรี่ติดไม้ติดมือกลับบ้าน จนขายดีหมดภายใน 5 วัน จากการสอบถาม นางสาวนริศรา ชัยสิทธิ์ หรือ น้องอ๋อม อายุ 20 ปี เล่าว่า ตนเองเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย สาขาบัญชี ปี 2 มีพี่น้อง 2 คน

หลังเลิกเรียนจะหารายได้พิเศษโดยการตระเวนขายลอตเตอรี่ตามร้านอาหารทั่วเมืองเลย เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ และขายมานานร่วม 10 ปี แล้ว โดยก่อนหน้านั้นเรียนมัธยมในเมืองเลย เมื่อหยุดเสาร์ อาทิตย์ หรือปิดเทอม จะไปขายลอตเตอรี่ที่จังหวัดอุดรธานีอยู่ประมาณ 6 ปี จนมาเรียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย จึงใช้เวลาหลังเลิกเรียนรับลอตเตอรี่จากยี่ปั๊ว มา 400 ใบ ตระเวนขายลอตเตอรี่ในร้านอาหารทั่วเมืองเลย ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึง 3 ทุ่มทุกวันไม่มีวันหยุด ซึ่งลอตเตอรี่จะขายหมดภายใน 4-5 วันทุกงวด สร้างรายได้งวดละ 5,000-6,000 บาท ตนได้แบ่งให้พ่อแม่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนเก็บไว้เป็นทุนการศึกษา แทงหวยยี่กี ที่ไหนดี ทั้งนี้ ตนรู้สึกภูมิใจที่ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์หลังเลิกเรียนมาขายลอตเตอรี่ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระในครอบครัว ดีกว่าไปเที่ยว สำหรับเลขเด็ดที่ประชาชน และคอหวย ทยอยเดินมาถาม มาหาซื้อกันเป็นเสียงเดียวกันคือ เลขอายุ พันเอก ประพัฒน์ จันทร์โอชา บิดาของบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายรัฐมนตรี ที่เสียชีวิตลงด้วยอายุ 97 ปี ทำให้ตัวเลขดังกล่าวถูกคอหวยออกมากว้านซื้อกันไปจนเกลี้ยงแผง ไม่สามารถหาซื้อได้แล้วในปัจจุบัน

ทำให้เลขชุดนี้ถูกขายหมดเกลี้ยงแผงทุกแผงในตัวจังหวัดชัยนาท มีมาเท่าไรขายหมดเกลี้ยง จนคอหวยที่มาแล้วผิดหวัง ต้องเอาเลขอื่นไปนอนลุ้นช่วงบ่ายของวันพรุ่งนี้ ส่วนเลขดังโซเชียลที่มาแรงไม่แพ้กันคือเลขชุดที่ทางกลุ่มผู้ค้าสลาก 5 ภาค นำมาแชร์ต่อๆ กันคือ รวมเลขขายดีโดยแม่จำเนียร มีเลขดังนี้ เลข 63 เลขต้อนรับปีใหม่, เลข 64 เลขคำชะโนด, เลข 25 เลขวันตรุษจีน, เลข 16 เลขวันครู, เลข 17 เลขวันออกสลาก, เลข 20 เลข ค.ศ. ใหม่, เลข 19 เลข ค.ศ. เก่า, เลข 62 เลข พ.ศ. เก่า, เลข 166 เป็นเลข 166 ปี เขาคิชกูฎ, เลข 3278 เป็นเลขทะเบียน ตัวเงินตัวทองหล่นจากรถตู้

พรานป่าโหดล่าเก้งยิงลำคอ กลางป่าแก่งกระจาน ก่อนหลบหนี จนท.

พรานป่ายังออกล่าสัตว์ป่าต่อเนื่อง หลังพบ จนท.พิทักษ์อุทยาน ที่สนธิกำลังหลายหน่วยเดินลาดตระเวน จึงทิ้งอาวุธ ถุงกระสอบ สัมภาระ ก่อนอาศัยความชำนาญวิ่งหลบหนีไปได้ พบซากเก้งถูกยิง น้ำหนัก 17 กก. ในป่าแก่งกระจาน เมื่อวันนี้ 13 ก.พ.64 นายพิชัย วัชรวงษ์ไพบูลย์ ผอ.สบอ.3 สาขาเพชรบุรี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก นางสาวเนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วย หน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รายงานผลการเดินลาดตระเวน และตั้งจุดสกัดป้องกันการกระทำความผิดกฎหมาย บริเวณป่าห้วยโป่งลึก ม.1 และ ม.2 บ้านโป่งลึกบางกลอย ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ภายในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กจ.10 (แม่สะเรียง) อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หน่วยงานร่วมสนธิกำลัง ประกอบด้วย 1.อช.แก่งกระจาน 2.ส่วนยุทธการด้านป้องกันและปราบปราม 3.หน่วยฯพญาเสือ 4.ทหารรบพิเศษ ที่ 1 แก่งกระจาน ได้ร่วมกันเดินลาดตระเวน และตั้งจุดตรวจ จุดสกัด กระทั่งเวลา 19.40 น. มีบุคคลเพศชาย มือขวาถือปืน หันปากกระบอกปืนมาทาง จนท. ด้านหลังสะพายถุงกระสอบปุ๋ย จนท.จึงแสดงตัวขอเข้าตรวจสอบ เมื่อบุคคลดังกล่าว เห็นและได้ยินเสียงของ จนท. จึงได้ทิ้งอาวุธปืน ถุงกระสอบ และสัมภาระทั้งหมด jetsada365 แล้ววิ่งหลบหนี จนท.ดำเนินการติดตาม แต่บุคคลดังกล่าวอาศัยความมืดและความชำนาญเส้นทาง หลบหนีการจับกุมไปได้ จนท.จึงตรวจสอบอาวุธปืน และสัมภาระต่างๆ อย่างละเอียด พบซากสัตว์ป่า และอุปกรณ์การกระทำความผิด ดังนี้ 1.ปืนแก๊ปไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ภายในบรรจุลูกตะกั่ว และดินปืน พร้อมใช้งาน 2.ถุงกระสอบปุ๋ย ดัดแปลงติดสายคาดศีรษะ ภายในบรรจุซากเก้ง จำนวน 1 ตัว มีลักษณะสมบูรณ์ อวัยวะส่วนต่างๆ ครบถ้วน น้ำหนัก 17 กก. มีร่องรอยรูที่เจาะทะลุด้วยกระสุนปืนบริเวณคอด้านขวา 3.อุปกรณ์การกระทำความผิด 7 รายการ

ทั้งนี้ จนท.ได้เชิญผู้ใหญ่บ้านโป่งลึกบางกลอย มาให้ข้อมูล เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่ไม่ไกลจากบ้านโป่งลึกบางกลอย และบุคคลดังกล่าวเดินมุ่งหน้าเข้ามาทางหมู่บ้าน ผู้ใหญ่บ้านให้ข้อมูลว่า ไม่ทราบบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ใด จนท.จึงได้จัดทำบันทึกตรวจยึด นำของกลางส่ง พนง.สอบสวน สภ.แก่งกระจาน ส่งตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันตัวบุคคล เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายต่อไป