สุดเฮง สองคุณยายวัย 84 และ 82 ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หลานช่วยเก็บ กลัวยายทำหาย
สองคุณยายวัย 84 และ 82 ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1
ภายหลังสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ออกผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านใน ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังทราบว่านางประชุม รั้วชัย อายุ 84 ปี และน้องสาวคือนางทับ ยอดเพชร อายุ 82 ปี สองพี่น้องถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2563 หมายเลข 803628 จำนวน 1 ใบ รับเงิน 6 ล้านบาทแบ่งกันคนละ 3 ล้านบาท หลังถูกรางวัลหลานสาวได้นำลอตเตอรี่ไปเก็บไว้เพราะกลัวว่าคุณยายจะทำหาย
จากการสอบถามคุณยายประชุมฯ ดวงเฮง เล่าว่าตนเองมีอาชีพขายห่อหมกในตลาดเทศบาลตำบลพิมาย
ช่วงเช้าวานนี้(29 ธ.ค.63) ซึ่งตรงกับวันพระ คุณยายได้ไหว้พระภูมิและเจ้าที่หน้าบ้าน และขอพรว่าขอโชคขอลาภให้ถูกรางวัลที่ 1 เพราะขายห่อหมกก็ไม่รวยสักที ยิ่งโควิดระบาดยิ่งขายยาก เป็นหนี้เป็นสินมากมาย สามีก็ป่วยติดเตียงมานาน 3 ปีแล้ว ต่อมาขณะที่ตนนั่งคุยอยู่กับน้องสาวคือนางทับ ได้มีคนขายลอตเตอรี่เดินเร่มาขายให้ จะให้เหมาทั้งแผงในราคา 2,400 บาท แต่ตนไม่มีเงินซื้อ จึงบอกคนขายว่าให้หยิบรางวัลที่ 1 มาให้ 1 ใบ คนขายจึงหยิบเลข แทงหวยลาว 803628 มาให้ 2 ใบ แต่ยายไม่มีเงินเลยซื้อแค่ใบเดียว โดยออกเงินกันคนละ 50 บาทกับน้องสาว หลังหวยออกจึงนำไปตรวจรางวัลปรากฏว่าถูกรางวัลที่ 1 เพื่อนบ้านต่างมาร่วมแสดงความยินดีหลานสาวจึงนำลอตเตอรี่ไปเก็บไว้อย่างดีเกรงว่าคุณยายจะทำลอตเตอรี่หาย ส่วนเงินรางวัลที่ได้คุณยายจะนำไปใช้หนี้ ที่เหลือจะแบ่งให้ลูกหลานและเก็บไว้รักษาสามีที่ป่วยติดเตียง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีระเบียบวาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมี นายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธาน กมธ.วิสามัญฯ ร่างกฎหมายดังกล่าว มีทั้งหมด 4 มาตรา คณะ กมธ.แก้ไขมีสาระสำคัญอยู่ที่ มาตรา 3 ว่าด้วยกำหนดโทษสตรีที่ทำแท้ง หรือยอมให้ผู้อื่นทำแท้ง ขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เบตงรับศึกหนัก อดีตผู้ต้องขังกลับจากมาเลเซีย ติดโควิดแล้ว 11 คน คุมเข้มคนไทยข้ามแดน
(20 ม.ค.64) ที่ด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตง เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเบตง ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเบตง ตำรวจท่องเที่ยว ทหารชุดเฝ้าตรวจชายแดนที่ 4 จนท.กอ.รมน.ภาค 4 สน. เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเบตง ได้ทำการตรวจสแกนควบคุมโรคคนไทยที่เดินทางมาจากประเทศมาเลเซีย จำนวนจากยอดที่แจ้งมาจำนวน 19 คน
แยกเป็นกลุ่มอดีตนักโทษที่ถูกกักตัวในศูนย์ ตม.รัฐปีนัง จำนวน 11 คน และเป็นแรงงานที่ไม่ใช่นักโทษจำนวน 8 คน เจ้าหน้าที่ได้แยกออกเป็น 2 ชุด ในการเดินทางเข้าพรมแดนเบตง โดยผ่านการตรวจสแกนอย่างละเอียด ซึ่งวันนี้มีกลุ่มนักโทษต้องเดินทางผ่านพรมแดนเบตงเข้ามาอีก 11 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ พบกลุ่มอดีตผู้ต้องขังและแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย ผ่านด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 11 คน จากจำนวนผู้เดินทางกลับทั้งหมด 34 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวดและขณะนี้อยู่ในศูนย์กักตัว โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเข้มงวด โดยกลุ่มอดีตผู้ต้องขัง jetsada365 และแรงงานไทยในศูนย์กักกลุ่มนี้ อยู่ในศูนย์กักตัวที่ อ.เบตง ซึ่งการติดเชื้อในกลุ่มนักโทษและผู้ที่ถูกกักตัวในศูนย์กักตัวในเรือนจำ รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีประวัติในการติดเชื้อในเรือนจำรัฐปีนัง แต่มีการติดเชื้อมากที่สุดในเรือนจำรัฐเคดาห์ ซึ่งปัจจุบันในประเทศมาเลเซียมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการติดเชื้อในเรือนจำและในศูนย์กักจากสถานที่อื่น
ขณะที่ทหารกองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 และ ตชด.4405 ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ออกลาดตะเวนเดินเท้า รอยต่อเชื่อมเขตแดนไทย-มาเลเซียใน อ.เบตง เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตลาดเขตแดนไทย -มาเลเซียที่มีแนวรั้วระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร จากแนวชายแดนใน อ.เบตง ที่มีระยะทางรวมประมาณ 86 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องจัดวางกำลังทั้งกองกำลังเดินเท้าในเส้นทางตามแนวชายแดน และได้จัดวางกองกำลังลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง ในจุดเขตแดนที่อยู่ใกล้หมู่บ้าน โดยมี กำลังภาคประชาชน ในการร่วมลาดตระเวน เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายต่อไป
Комментарии