ส่องเลขเด็ด "เจ้าโทน" แมววัดดังอ่างทอง ชาวบ้านเชื่อเป็นแมวของแม่ตะเคียน
วันนี้ (28 ก.พ. 64) ที่ วัดใหม่โคกมะรุม ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ชาวบ้าน-นักท่องเที่ยว และแฟนคลับของ "เจ้าโทน" แมวเซเลปประจำวัด เดินทางมาหาเจ้าโทน เพื่อขอเลขเด็ดจากเจ้าโทน โดยเหล่าบรรดาแฟนคลับเชื่อว่า เจ้าโทนเป็นแมวแม่ตะเคียนใบ้หวยที่โด่งดัง มีแฟนคลับทั่วสารทิศ โดยหญิงสาวจาก จังหวัดกาญจนบุรี หนึ่งในแฟนคลับของเจ้าโทน เดินทางมาหาพร้อมซื้อกระเป๋ารูปเจ้าโทนช่วยเหลือค่าอาหาร เท่านั้นยังไม่พอ เจ้าตัวยังทำพิธีเสี่ยงทายตัวเลขเพื่อนำไปเสี่ยงดวง โดยเขียนตัวเลขใส่กระดาษ แล้วให้เจ้าโทนใช้หางเขี่ย เสี่ยงทายตัวเลข ได้เลขคือ 845
ผลงานที่ผ่านมาของ "เซเลปโทน" มักจะชอบขึ้นไปนอนทับบนแผงลอตเตอรี่ของแม่ค้า ภายในวัดใหม่โคกมะรุม หากขึ้นแผงไหน ชาวบ้านนักท่องเที่ยวจะแห่มาซื้อเลข ที่เจ้าโทนนอนทับ หรือใช้เท้าเหยียบ จนหมดเกลี้ยงแผง เชื่อเป็นการบอกใบ้เลขเด็ด เท่านั้นยังไม่พอ หากเจ้าโทนไปนอนที่รถคันไหน ชาวชาวบ้านก็จะพากันตีเลข พร้อมอุดหนุนลอตเตอรี่จากทะเบียนรถกันล้นหลาม สร้างความดีใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นอย่างมาก และมีผู้เมื่อถูกรางวัลสมใจปรารถนา ชาวบ้านก็จะซื้ออาหารแมวหรือปลาทูของโปรดเพื่อนำมาเป็นรางวัลให้กับเจ้าโทน แถมแฟนคลับก็มาอุดหนุนกระเป๋าที่มีลวดลายเป็นหน้าของเจ้าโทน แทงหวยยี่กี ที่ไหนดี เพื่อนำเป็นค่าอาหารให้กับแมวเซเลป ทำให้ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาหาเจ้าโทนกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับระวัติของเจ้าโทน ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นแมวแม่ตะเคียน ติดมากับต้นตะเคียนแม่ย่าสร้อยสุวรรณ ที่กรรมการวัดใหม่โคกมะรุม ได้ไปอัญเชิญมาจากจังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างทางได้ยินเสียงแมวร้อง จึงได้จอดรถตรวจตามหาเสียงแมว พบว่าในโพรงไม้ตะเคียนแม่ย่าสร้อยสุวรรณ มีแมวสีขาวดำขนาดใหญ่ ซุกซ่อนอยู่ด้านในโพรง จึงได้นำมาเลี้ยงดูอยู่ที่วัดแล้วให้ชื่อว่าเจ้าโทน โดยเจ้าโทนเป็นแมวเพศผู้ที่ขนาดตัวใหญ่ อายุประมาณ 4 ปี
สำหรับ วัดใหม่โคกมะรุมนั้น เป็นวัดแห่งเดียวในประเทศ ที่มีพ่อปู่แม่ย่าตะเคียนทอง มากที่สุดถึง 50 ต้น หลังจากที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านได้มาแจ้งให้ทางคณะกรรมการวัด ไปอัญเชิญมาจากสถานที่ต่างๆที่ได้พบต้นตะเคียน ซึ่งชาวบ้านมีความเชื่อว่าหากพบเจอต้นตะเคียนที่อยู่ภายในบริเวณบ้านหรือสถานที่ของตนเองต้องนำไปถวายวัด เพื่อให้แม่ตะเคียนมีที่อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข ให้ชาวบ้านกราบไหว้ขอโชคลาภตามความเชื่อ
แอโรโพนิกส์สายพันธุ์ไทย ผุดสตรอว์เบอร์รีสมุทรปราการ
การเพาะปลูกระบบแอโรโพนิกส์เป็นการปลูกพืชให้ส่วนรากลอยอยู่ในอากาศ มีการหมุนเวียนน้ำและสารละลายธาตุอาหาร โดยการใช้ปั๊มอัดผ่านหัวพ่น ฉีดพ่นน้ำผสมกับธาตุอาหารให้เป็นฝอยละเอียดคอยหล่อเลี้ยงราก ตามระยะที่กำหนดตลอด 24 ชม. โดยมีไทม์เมอร์เป็นตัวกำหนดการฉีดพ่น ตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด ต่างจากระบบไฮโดรโปนิกส์ที่เรารู้จักกันดี รากจะแช่อยู่ในน้ำตลอดช่วงอายุพืช แล้วใช้น้ำผสมธาตุอาหารหมุนเวียน jetsada365 ทำให้ต้องเปลี่ยนน้ำค่อนข้างบ่อย และเสี่ยงต่อการเกิดโรครากเน่า หากไม่ชำนาญพอ แม้บ้านเราจะรู้จักกับระบบแอโรโพนิกส์มาระยะหนึ่งแล้ว แต่เนื่องจากต้องศึกษาถึงความต้องการสารอาหาร จำนวนครั้งในการฉีดให้เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิด ทำให้ระบบที่ออกมายังคงต้องพัฒนาอยู่ แต่ด้วยความไม่หยุดคิดของหนุ่มใหญ่เมืองสมุทรปราการ จึงได้คิดค้นระบบนี้จนสำเร็จ แถมด้วยระบบข้อต่ออัจฉริยะที่คิดค้นขึ้นเอง ช่วยให้พืชโตเร็วกว่าเดิม 30-50% ที่สำคัญ ปลูกพืชได้ทุกชนิด แม้กระทั่งสตรอว์เบอร์รี ที่ทดลองปลูกได้กินลูกมาเป็นรุ่นที่ 5 แล้ว
เดิมปลูกเมล่อน ผักสลัด บนดาดฟ้าด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ไม่ต่างจากที่เห็นกันทั่วไป กระทั่งคิดค้นสูตรธาตุอาหาร A และ B ของตัวเอง จนเมื่อ 4 ปีที่แล้วเห็นระบบแอโรโพนิกส์ของต่างประเทศแล้วสนใจ เพราะการที่รากลอยในอากาศจะไม่ทำให้รากเน่า และการฉีดพ่นธาตุอาหารและน้ำเป็นฝอย พืชจะได้รับสารอาหารดีกว่าให้น้ำผ่านอย่างเดียว ที่สำคัญไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อย แต่ด้วยระบบจากต่างประเทศมีราคาสูงมาก เลยไม่ค่อยได้รับความนิยม ผมจึงอยากคิดค้นระบบแอโรโพนิกส์ เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกของคนไทย” รุ่งโรจน์ เวชสิทธิ์ หนุ่มใหญ่ผู้ไม่เคยหยุดคิด พัฒนาระบบแอโรโพนิกส์สายพันธุ์ไทย เริ่มจากทดลองปลูกเมล่อน ผักสลัด ก่อนจะพัฒนาสู่การปลูกสตรอว์เบอร์รี ย่านบางพลีใหญ่ จ.สมุทรปราการ
Comentarios