สาวชัยนาท หอบเจล-หน้ากาก แก้บน "ไอ้ส้มฉุน" หลังถูกหวยอีก เป็นงวดที่ 21 ติดต่อกันแล้ว
แก้บน "ไอ้ส้มฉุน" หลังถูกหวยอีก เป็นงวดที่ 21 ติดต่อกันแล้ว
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 30 ธ.ค. 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทราบผลการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดล่าสุด นางสายฝน เรืองฤทธิ์เดช สาวชัยนาทดวงเฮงที่ถูกรางวัลติดกัน 21 งวดติด พร้อมชาวบ้าน กว่า 20 คน ขนเจลแอลกอฮอล์ 99 ขวด หน้ากากอนามัย 999 อัน มายังหน้ารูปปั้นไอ้ส้มฉุนยักษ์ ที่ วัดทรงเสวย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท มาแก้บนแบบนิวนอร์มอล ยุคโควิด-19 หลังจากถูกรางวัลน้อยใหญ่จากการขอโชคไอ้ส้มฉุน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ชื่อดังประจำวัด ให้โชคลาภจากผู้คนที่มากราบไหว้ไปแล้วหลายๆงวดติด
ซึ่งยังมีคนถูกรางวัลอีกมาก แต่ก็ไม่สามารถมาแก้บนได้ เพราะทางวัดปิดไม่ให้เข้ากราบไหว้จนถึงวันที่ 6 ม.ค. 2563 แต่ก็อนุโลมให้ไหว้ได้ที่หน้าไอ้ส้มฉุนยักษ์เท่านั้น จากนั้น ทางด้านสาวดวงเฮง ก็ไม่พลาดที่จะเสี่ยงเซียมซี หน้าไอ้ส้มฉุนยักษ์ เขย่าอยู่ครู่หนึ่ง ได้เลข 18, 81 ทำให้ชาวบ้านและคนที่มาแก้บน ต่างหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเก็บไว้เล่นในงวดต่อไป แทงหวยลาว นางสายฝน ฤทธิ์เรืองเดช เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า ก่อนออกรางวัลในงวดนี้ ตนสวมเสื้อลายไอ้ส้มฉุน มากราบไหว้ ขอให้ถูกรางวัลใดก็ได้ จากนั้นก็ไปหาซื้อเลขวันเกิดตัวเอง ตรวจรอบแรกไม่ถูกรางวัล แต่เมื่อนำสลากมาพอตรวจอีกครั้ง จึงเห็นว่า ถูกรางวัลเลขหน้า จำนวน 5 ใบ รวมแล้ว งวดนี้ก็เป็นงวดที่ 21 ที่ถูกรางวัลติดต่อกัน จึงรวมเงินกับชาวบ้าน ซื้อเจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยมาแก้บน หวังให้ทางวัดเอาไปแจกจ่ายชุมชน และเอาไว้ใช้ประโยชน์สืบต่อไป ให้ทุกคน รอดพ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นถึงหนาว โดยในภาคเหนืออุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วย
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 19-20 ม.ค. 64 ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในระยะนี้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ฝุ่นละออง/หมอกควันมีการสะสมลดลง ขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียสลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
หนุ่มเมาคลั่งเผาบ้านวอด 2 หลัง อ้างแค้นที่แม่ไม่รัก-ถูกเมียทิ้ง
วันที่ 18 ม.ค.64 เวลาประมาณ 17.40 น. ร้อยตำรวจโท วัชญานนท์ ศรกาดำ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชนบริเวณใกล้เคียงวัดประสาท ม.4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลอินทร์บุรี อบต.อินทร์บุรี และเทศบาลตำบลทับยา มาระงับเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว
ที่เกิดเหตุ พบไฟกำลังไหม้บ้าน 2 หลัง ลักษณะเป็นบ้าน 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นปูน ชั้นบนเป็นไม้ ซึ่งอยู่ติดกันคือบ้านเลขที่ 31/1 และ 31/2 ม.4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และไฟได้ลุกลามไปยังบ้านเลขที่ 25/2 ซึ่งอยู่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถสกัดเพลิงไว้ได้ โดยเสียหายเล็กน้อย ใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สอบสวนทราบว่า บ้านเลขที่ 31/1 เป็นบ้านของ นางสวิง คำจันทร์ทึก อายุ 54 ปี และบ้านเลขที่ 31/2 เป็นของ นางสาว กาญจนา ม่วงกร ซึ่งเป็นลูกสาวของ นางสวิง สำหรับผู้ก่อเหตุที่วางเพลิงเผาบ้านนั้น เป็นลูกชายของ นางสวิง ชื่อ นาย เจษฎา ม่วงกร อายุ 33 ปี และเป็นพี่ชายของ น.ส.กาญจนา เมื่อ นางสวิง jetsada365 มาเห็นบ้านตนเองเหลือเพียงตอตะโก ถึงกับร้องไห้ฟุบลงกับพื้นถนน จากการสอบถาม ชาวบ้านใกล้เคียงผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ได้เห็นควันไฟจากบ้านของ นางสวิง จึงรีบวิ่งตะโกนบอกคนแถวบ้านว่าไฟไหม้ๆ ซึ่งในขณะนั้น นางสวิง กำลังขายของอยู่ที่ตลาด คนข้างบ้านจึงออกมาดูและโทรเรียกรถดับเพลิงและคว้าถังดับเพลิงมาช่วยแต่ไม่ทันเนื่องจากด้านบนของบ้านต้นเพลิงเป็นไม้ ไฟจึงโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
โดยชาวบ้านละแวกนั้นเล่าว่า นายเจษฎา หรือ นายมืด เป็นคนเผาบ้านแม่ตนเอง โดยตอนเช้า นายมืด ได้โวยวายคนเดียวด้วยความมึนเมา ซึ่งพฤติการณ์ของ นายมืด คือชอบทำร้ายคนในครอบครัว เคยเรียกตำรวจมาจับไปครั้งหนึ่งแล้วไม่นาน วันนี้ก็มาก่อเหตุเผาบ้านแม่ตนเอง และลุกลามไปยังบ้านน้องสาว โดยอาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่ และในขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้นั้น นายมืด ได้กระโดดหนีแต่ชาวบ้านคว้าตัวจับไว้ได้ทัน
Comments